ขั้นแรก ขั้นตอนการตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการ (Informal Investigation) ก็ตามชื่อ ในขั้นนี้SEC ไม่มีอำนาจจะไปสั่งอะไร ต้องอาศัยการให้ความร่วมมือจากบุคคล หรือบริษัทที่ถูกตรวจสอบ จบขั้นตอนนี้หน่วยงานนี้จะทำรายงานสรุป อาจจะบอกว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่แล้วไม่ต้องทำอะไรต่อ หรือเขาอาจจะขออนุมุัติจากคณะกรรมการตลาด ในการเดินหน้าตรวจสอบอย่างเป็นทางการในขั้นถัดไป
ในขั้นต่อมา ขั้นการสอบสวนอย่างเป็นทางการ (Formal Investigation) จะ เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อพบว่าน่าจะมีการทำผิดกฏหมายหลักทรัพย์ คำสั่งการตรวจสอบอย่างเป็นทางการจะให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ SEC ที่จะสอบสวน ที่เขาสามารถให้คนที่มาให้การ ต้องรับรองคำให้การภายใต้คำสาบาน (Oths) ว่าคำให้การเป็นความจริง สามารถเอาเป็นหลักฐานทางศาลได้ เมื่อตรวจสอบผ่านขั้นนี้ก็เหมือนเดิมคือ อาจจะมีบทสรุปมาว่า ไม่ต้องทำอะไรต่อ หรือจะเริ่มแนะนำคณะกรรมการให้ดำเนินคดีต่อผู้ถูกร้อง ซึ่งในขั้นนี้ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไปลุุยดำเนินคดีเลย แต่เขาจะส่งเป็นหนังสือแจ้งผู้ถูกร้อง (Wells Notice) ว่า SEC เตรียมจะดำเนินคดีแล้ว เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องสามารถ ยื่นข้อมูล หลักฐานเพิ่มเติม (Wells Submission) ว่า ทำไมการจะดำเนินคดีของSEC ไม่น่าจะถูกต้อง ซี่งเขาให้เวลาหนึ่งเดือนในการทำหนังสือแย้งมา เมื่อเจ้าหน้าที่อ่านหนังสือแย้ง ก็อาจจะเดินหน้าดำเนินคดี หรือแก้ไข หรือยกเลิกขอเสนอแนะต่อคณะกรรมการในการดำเนินคดี
เมื่อได้รับขอเสนอแนะสุดท้ายแล้วทางคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ก็มีทางเลือกว่าจะดำเนินคดีทางแพ่ง(Civil Action) ผ่านศาลของสหรัฐ หรือจะพิจารณาคดีทางปกครอง (administrative action) ต่อศาลปกครองของสหรัฐ หรือคณะกรรมการก็อาจไม่ทำอะไรต่อเลย กรณี Zeekเขาโดนดำเนินคดีทางแพ่ง โดยดำเนินการผ่าน สำนักการอัยการของรัฐนอร์ทแคโรไลน่า แล้ว Zeek ก็จะมีทางเลือกสองทางคือ ต่อสู้ในศาลเลย ว่ากันกี่ศาลก็ว่ากันไป หรือ ยอมรับความผิดแล้วชดใช้ค่าเสียหาย
แล้วตอนนี้กรณี Zeek อยู่ตรงไหนแล้ว? Zeek เขายอมรับผิดไปแล้วครับ อ้างมาจากที่ทาง SEC ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะ ดำเนินคดีแพ่งผ่านสำนักงานอัยการของรัฐนอร์ทแคโรไลน่านั้น ระบุเอาไว้ว่านายพอล เบิร์กยอมรับความผิดในข้อหาการขายหลักทรัพย์และข้อเสนอที่ไม่ได้จดทะเบียน อย่างผิดกฏหมาย และนายพอลได้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนถึง 4 ล้านเหรียญสหรัฐ และไม่สงวนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน และผลประโยชน์ที่งอกเงยขึ้นมา แสดงว่าขั้นตอนที่ผมพรรณามาแต่ต้นยืดยาวน่ะ เขาดำเนินการเป็นขั้นตอนมานานแล้ว ซึ่งทางที่ปรึกษากฏหมาย เจ้าหน้าที่ หรือซีอีโอของบริษัทย่อมต้องรู้เรื่อง เพราะเขาทั้งแจ้ง ทั้งส่งคนมาสอบสวน ขอข้อมูล ให้ชี้แจง กว่าเรื่องจะมาถึงมืออัยการในวันนี้ ซึ่งสำนักงานอัยการได้ยื่นเรื่องให้อัยการ อัยการก็มีทางเลือกสองทาง คือหนึ่งไปให้ศาลและคณะลูกขุนตัดสินในศาล ซึงก็สู้กันยิดยาว อุทธรณ์ก็ได้ หรือ อีกทางหนึ่งคือขอให้ฝ่ายผู้ถูกร้องยอมรับความผิดกันนอกศาล(Settlement) ซึ่งอันนี้คงต้องมีทนายเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย เจรจาชดใช้ทางแพ่ง นาย พอล เบิร์ก ซีอีโอ เขาเลือกแนวทางนี้ไปตั้งแต่วันศุกร์ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา และตอนนี้มีนายเคนเน็ธ เบลล์เป็นผู้ควบคุมทรัพย์สินของกิจการที่จะดำเนินการค้นหา อายัดและคืนเงินอายัดให้แก่ผู้เสียหาย
ก็แปลว่ารายการจบแล้วสิ ขอบคุณที่มาร่วมสนุกอะไรทำนองนั้น ไม่เชิงครับ! ตอนนี้มีกลุุ่ม Zeek Rewards Affiliates United Against The SEC เตรียมสู้คดีกับทาง SEC ว่าการดำเนินการของ SEC ไม่ถูกต้องและไม่แฟร์ โดยจะมีการส่งทีมนักบัญชี นักกฏหมายเข้าไปตรวจสอบข้อมูลและขั้นตอนการดำเนินการของ SEC แล้วนำมุมมองของฝั่งนี้ไปเทียบเคียง แล้วเสนอขอแย้งประเด็นต่างๆในศาล ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างแรกๆ คือ ฝั่งทนายของ Zeek Rewards Affiliates United Against The SEC จะใช้เทคนิคทางกฏหมายว่าๅSEC ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ซึ่งจะปลดอำนาจและสิ่งที่SECบังคับคดีไป อย่างเช่นการพิทักษ์ทรัพย์ เพื่อยุติการดำเนินการของนายเคนเน็ธ เบลล์ในการพยายามอายัดและคืนเงินผู้เสียหายเอาไว้ก่อน หากมองในแง่ดีเราอาจหยุดSECไว้ได้ เราจะได้Zeekคืนมา อันนี้ผมยังงงๆอยู่ว่าจะทำอย่างไร เพราะเจ้าของเขาเซ็นต์รับความผิดแล้ว ให้ไปรอดูอีกทีว่าศาลจะรับคดีนี้ไหม หากรับก็แสดงว่าทำได้ก็แล้วกัน งานนี้จะอยู่ตรงที่ทางทีมทนายของสองฝั่งจะใช้เทคนิคทางกฏหมายมาสู้กัน ก็จะอยู่ที่ผู้พิพากษาจะรับฟังเหตุผลของแต่ละฝ่าย แต่คงจะใช้เวลาต่อสู้กัน
ดัง นั้นเวลามึคนมาบอกว่ารอฟังข่าวดีเร็วๆนี้ ก็ให้รู้ว่าเขาไม่รู้เรื่องหรือเขารู้เรี่องแต่ไม่บอกเรา อันนี้ใครรีบใช้เงินก็ต้องร้องเพลงรอกันไปหลายๆๆๆรอบ วางแผนในชีวิตกันนะครับ เพราะว่าท่านยังไม่ได้เงินคืนจากทางการเร็วๆนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น